กระเบื้องลายไม้ คือ กระเบื้องที่มีลายละเอียดและสีที่ออกแบบมาให้เป็นรูปลักษณ์หรือลายสีที่คล้ายกับไม้ธรรมชาติ หลายคนใฝ่ฝันที่จะมีพื้นไม้เนื้อแข็งในบ้าน แต่ค่าใช้จ่ายและการดูแลรักษาพื้นไม้เนื้อแข็งอาจเป็นเรื่องท้าทาย กระเบื้องพื้นลายไม้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับเจ้าของบ้านเนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนได้ มีความทนทานและใช้งานได้นานหลายปี กระเบื้องปูพื้นลายไม้เป็นที่นิยมเพราะสวยงามดูเป็นธรรมชาติ จึงช่วยเพิ่มสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ดูน่าอยู่
กระเบื้องปูพื้นลายไม้คืออะไร?
กระเบื้องปูพื้นลายไม้เป็นกระเบื้องที่มีลักษณะเหมือนไม้ ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก ทำให้การออกแบบกระเบื้องลายไม้มีความรู้สึกและดูเหมือนไม้จริง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกแยะความแตกต่าง ข้อดีของกระเบื้องพื้นลายไม้คือ ทนต่อรอยขีดข่วนแม้จะเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์หนักหรือทำของของมีคมหล่นลงบนกระเบื้องแทบจะไม่เสียหาย ซึ่งข้อดีของการเลือกซื้อกระเบื้องปูพื้นลายไม้ มีดังนี้
6 ข้อดี ของกระเบื้องปูพื้นลายไม้
- ลวดลายสวยงามเหมือนไม้จริง
- ไม่มีเสี้ยนไม้ ไม่ปริแตก
- ทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องใช้นํ้ายาทำความสะอาดราคาแพง เพียงกวาดหรือถูพื้นกระเบื้องก็ดูใหม่สดใสได้อีกครั้ง
- ทนต่อความร้อน รังสี UV แสงแดด
- มีความทนทานสูง ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วนหรือรอยเปื้อน และไม่ดูดซับความชื้น
- ไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อรา ปลวก และแมลงกัดแทะ
ซึ่งแตกต่างจากไม้จริง กระเบื้องปูพื้นลายไม้จะไม่บิดงอหรือแตกเป็นเสี่ยงๆ และไม่จำเป็นต้องลอก ขัด ทาสีใหม่ และอุดรอยอีกต่อไปที่สำคัญราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย และการบำรุงรักษาต่ำ พื้นกระเบื้องลายไม้มีข้อดีมากมาย การมีกระเบื้องลวดลายไม้แทนพื้นไม้เนื้อแข็งแท้นั้นถูกกว่ามากและช่วยให้พื้นบ้านสวยงาม โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายในการดูแลที่แพงหรือใช้เวลานาน
นอกจากนี้ กระเบื้องลายไม้ยังเป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ต้องใช้ไม้จริงในการผลิต แต่ยังสามารถดูเหมือนไม้จริงได้ เป็นการใช้วัสดุที่ยังไม่มีการใช้งานหรือไม่ได้ใช้งานนาน ซึ่งช่วยลดการใช้ไม้ธรรมชาติได้ในการสร้างสรรค์พื้นผิวลายไม้ในสไตล์ต่าง ๆ
กระเบื้องปูพื้นลายไม้มีขนาดตามมาตรฐานเหมือนกระเบื้องปูพื้นทั่วไป เช่นมีขนาด12×12 นิ้ว (30×30 เซนติเมตร) หรือ 24×24 นิ้ว (60×60 เซนติเมตร) และ 16×16 นิ้ว (40×40 เซนติเมตร) อีกยังมีความหนาที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ 8 มิลลิเมตรถึง 10 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถเลือกใช้ตามความต้องการและการใช้งานของผู้ใช้งานได้
กระเบื้องปูพื้นลายไม้นี้สามารถใช้ได้กับพื้นที่ต่างๆ รอบบ้าน การติดตั้งกระเบื้องปูพื้นไม้สีน้ำตาลในห้องนั่งเล่นเป็นเรื่องดี ตัวอย่างเช่น หากต้องการให้พื้นที่รู้สึกอบอุ่นขึ้น เราสามารถเลือกเฉดสีอ่อน เช่น สีเบจ เพื่อทำให้ห้องขนาดเล็กรู้สึกกว้างขึ้นและโปร่งสบายขึ้น
สีพื้นกระเบื้องลายไม้แบบไหนดี?
พื้นกระเบื้องลายไม้มีหลายสีเพื่อให้เหมาะกับความชอบและสไตล์การออกแบบที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้เป็นสีทั่วไปที่พบได้ในพื้นกระเบื้อง
สีโอ๊คธรรมชาติ (Natural Oak) สีนี้คล้ายกับสีธรรมชาติของไม้โอ๊ค โดยมีโทนสีน้ำตาลอ่อนถึงปานกลาง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและน่าดึงดูดให้ความสนใจ
สีวอลนัท (Walnut) กระเบื้องปูพื้นลายไม้สีวอลนัทมีสีน้ำตาลเข้มเข้มพร้อมกลิ่นโทนแดงหรือช็อกโกแลต สีนี้เพิ่มความสง่างามและความเล้นลับให้กับพื้นห้อง
สีเถ้า (Ash): กระเบื้องไม้สีแอชมักมีสีเทาอ่อนหรือสีเบจอ่อน ตัวเลือกสีนี้นำเสนอรูปลักษณ์ร่วมสมัยและทันสมัย สร้างความรู้สึกของความเปิดกว้างและความสว่าง
สีเมเปิ้ล (Maple): กระเบื้องปูพื้นลายไม้สีเมเปิลแสดงเฉดสีน้ำตาลอ่อนถึงปานกลางพร้อมอันเดอร์โทนทอง ช่วยให้ห้องดูคลาสสิกและไร้กาลเวลา
สีดริฟท์วูด (Driftwood): กระเบื้องไม้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดริฟท์วูด เป็นการเลียนแบบรูปลักษณ์ของไม้อายุที่ผุกร่อนและฟอกขาว กระเบื้องเหล่านี้มักมีลักษณะเป็นสีเทาหรือสีขาว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างความสวยงามแบบชนบทหรือแนวชายฝั่ง
สีเอบบะนี (Ebony): กระเบื้องปูพื้นลายไม้สีเอบบะนีเป็นสีดำเข้มหรือสีน้ำตาลเข้ม ให้สัมผัสที่น่าทึ่งและโดดเด่นในทุกพื้นที่ สามารถสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นเมื่อจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์หรือผนังสีอ่อน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และยังมีเฉดสีและพื้นผิวอื่นๆ อีกมากมายในท้องตลาด เมื่อเลือกสีของพื้นกระเบื้องลายไม้ ให้พิจารณาสไตล์และบรรยากาศโดยรวมที่ต้องการสร้างในพื้นที่ ตลอดจนการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ นอกจากนี้ควรขอรับตัวอย่างหรือไปที่โชว์รูมเพื่อดูสีด้วยตนเอง เนื่องจากแสงและหน้าจอคอมพิวเตอร์สามารถปรับเปลี่ยนการรับรู้สีได้ในบางครั้ง
กระเบื้องลายไม้ ขนาด 30×30
สำหรับกระเบื้องปูพื้นลายไม้ ขนาด 30×30 เซนติเมตร หรือ 12×12 นิ้ว ในพื้นที่ 1 ตารางเมตร (ตรม.) ต้องใช้กระเบื้องทั้งหมด 11 แผ่น เฉลี่ยราคาตารางเมตรละ 175-270 บาท สำหรับการใช้งานกระเบื้องสำหรับปูผนัง ปูพื้น ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก
กระเบื้องลายไม้กฤษณา สีเนื้อ รุ่นเคลือบผิวมันเงา
กระเบื้องลายไม้เกาะเพชร สีนํ้าตาล รุ่นเคลือบผิวมันเงา
กระเบื้องลายไม้จูโน่ สีเบจ รุ่นผิวหยาบกันลื่น
กระเบื้องลายไม้ทองลําเพลิน สีน้ำตาล รุ่นกระเบื้องผิวมัน
กระเบื้องลายไม้ ขนาด 40×40
สำหรับกระเบื้องปูพื้นลายไม้ ขนาด 40×40 เซนติเมตร หรือ 16×16 นิ้ว ในพื้นที่ 1 ตารางเมตร (ตรม.) ต้องใช้กระเบื้องทั้งหมด 7 แผ่น เฉลี่ยราคาตารางเมตรละ 195-265 บาท สำหรับการใช้งานกระเบื้องสำหรับปูผนัง ปูพื้น ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก
กระเบื้องลายไม้แพรงาม สีน้ำตาล รุ่นกระเบื้องผิวมัน
กระเบื้องลายไม้โอเวอร์แลนด์ สีน้ำตาลเข้ม รุ่นผิวหยาบ
กระเบื้องลายไม้สะวันนา
กระเบื้องลายไม้มิกซ์เจอร์ วู้ด สีเทาอ่อน รุ่นผิวนวลจากการเคลือบ
กระเบื้องลายไม้ลาซาร่า สีน้ำตาล ดูสวนแข็งแรงทนนาน
กระเบื้องลายไม้ ขนาด 60×60
สำหรับกระเบื้องปูพื้นลายไม้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร หรือ 24×24 นิ้ว ในพื้นที่ 1 ตารางเมตร (ตรม.) ต้องใช้กระเบื้องทั้งหมด 3 แผ่น เฉลี่ยราคาตารางเมตรละ 258-658 บาท สำหรับการใช้งานกระเบื้องสำหรับปูผนัง ปูพื้น ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก
กระเบื้องลายไม้ปาโล่ ซาโต้ รุ่นเนื้อกึ่งผิวหยาบ
กระเบื้องลายไม้โอ๊คปาล์มเมอร์ สีนํ้าตาล รุ่นผิวมันเงาจากเคลือบ
กระเบื้องลายไม้เดนทรี ผิวมันวาวจากการขัด
กระเบื้องลายไม้ริก้า รุ่นผิวมันเงา ดูมีสง่า
กระเบื้องลายไม้เดนเวอร์ เงาวับสะกดทุกสายตา
กระเบื้องลายไม้มักใช้วัสดุที่ทนทานและให้ความรู้สึกแบบเดียวกับไม้จริง เช่น กระเบื้องเซรามิก หรือกระเบื้องโพรซีลีน (Porcelain) ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน อีกทั้งกระเบื้องลายไม้ยังมีการพัฒนาให้มีความคล้ายคลึงกับลายไม้จริงมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบการติดตั้งที่ง่ายและสะดวกสามารถนำไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือบริเวณภายนอกของบ้านเช่นระเบียง ริมสระว่ายน้ำ หรือลานจอดรถ เป็นต้น
บทส่งท้าย
ในการเลือกใช้กระเบื้องลายไม้ควรพิจารณาเลือกตามความเหมาะสมกับสไตล์และการตกแต่งภายในของบ้าน รวมถึงความทนทานต่อการใช้งานและการดูแลรักษา อีกทั้งยังควรพิจารณาให้เลือกซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้และตรวจสอบความคุณภาพของผลิตภัณฑ์ก่อนการติดตั้งเสมอ
