เรื่องน่ารู้ของสัตว์โลกแสนพิเศษที่จะนำเสนอในวันนี้คงหนีไม่พ้น นกฟลามิงโกสีชมพูมักได้รับการยกย่องเป็นพิเศษในเรื่องสีสันสดใส อันที่จริง คำว่า ‘ ฟลามิงโก ‘ มาจากคำภาษาละติน ‘ฟลาเมงโก’ ซึ่งหมายถึง ‘สีเพลิง’ แต่ทำไมนกฟลามิงโกถึงเป็นสีชมพู?
จุดสำคัญประการหนึ่งเกี่ยวกับสีของนกฟลามิงโก คือ สีชมพูของนกฟลามิงโกไม่ใช่ลักษณะทางพันธุกรรม ไม่มีลูกนกฟลามิงโกสายพันธุ์ใดเกิดมาเป็นสีชมพู ในทางกลับกัน นกฟลามิงโกที่เพิ่งฟักออกมามักจะมีสีเทาหรือสีขาวหม่น และเปลี่ยนเป็นสีชมพูในช่วงสองสามปีแรกในชีวิต
หัวข้อน่าสนใจ
Toggleเรื่องทั่วไปของนกฟลามิงโก?
ฟลามิงโก้ ในภาษาอังกฤษเขียนว่า Flamingos เป็นนกขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่ชอบอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงเป็นจำนวนหลายพันตัว ฟลามิงโก้เป็นนกที่บินได้ และยังถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก
นกฟลามิงโก กินอะไร?
ดังคำกล่าวที่ว่ากินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ถ้าสีชมพูสดใสไม่ใช่ส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอ ทำไมนกฟลามิงโกถึงเปลี่ยนเป็นสีชมพู
นกฟลามิงโกอาศัยอยู่ตามทะเลสาบ พื้นที่ชุ่มน้ำ และหนองบึง ซิ่งเป็นแหล่งอาหารที่ดี ส่วนใหญ่ประกอบด้วยตัวอ่อนของแมลง สาหร่าย ครัสเตเชียและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก โดยเฉพาะกุ้งและหอย
อาหารจากสาหร่ายและครัสเตเชียนล้วนประกอบด้วยเบต้าแคโรทีนกับแคโรทีนอยด์อื่นๆ ซึ่งเป็นโปรตีนอินทรีย์ที่มีความเข้มข้นสูงมาก ในระบบย่อยอาหารของนกฟลามิงโก เอ็นไซม์ในตับจะแบ่งแคโรทีนอยด์ออกเป็นโมเลกุลของเม็ดสีชมพูและสีส้มซึ่งเป็นไขมันดูดซึมเข้าไป ไขมันเหล่านี้สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย เมื่อโตไม่ว่าจะเป็นขน จะงอยปาก ใบหน้า และขา ค่อยๆ เปลี่ยนสีของนกฟลามิงโกให้เป็นสีชมพู
ทำไมนกฟลามิงโก มีเฉดสีชมพูต่างกัน?
นกฟลามิงโกบางชนิดมีโทนสีชมพูสว่างหรือเข้มกว่า บางชนิดมีโทนสีส้มหรือสีแดง และบางชนิดเป็นสีชมพูอ่อนที่เกือบจะเป็นสีขาวทั้งหมด เนื่องจากแคโรทีนอยด์ในอาหารที่พวกมันกิน จึงสมเหตุสมผลที่ชนิดและปริมาณของอาหารที่นกฟลามิงโกกินสามารถกำหนดสีที่แน่นอนของนกฟลามิงโกได้
ระดับแคโรทีนอยด์ในสาหร่ายและครัสเตเชียแตกต่างกันไปตามส่วนต่างๆ ของโลก ด้วยเหตุนี้นกฟลามิงโกในทะเลแคริบเบียนจึงมีสีชมพูอมส้มหรือแดงสด ในขณะที่นกฟลามิงโกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้งรอบทะเลสาบนาคูรูของเคนยาจึงมีสีชมพูอ่อนกว่า
หากนกฟลามิงโกเลิกกินอาหารที่มีแคโรทีนอยด์ ขนใหม่ของพวกมันจะเริ่มเติบโตในเฉดสีซีดกว่ามาก ในที่สุดจะได้ขนป็นสีเทาหรือสีขาว ในเวลาเดียวกันกับที่ขนสีชมพูของพวกมันหายไปจากการผลัดขนเช่นกัน
เมื่อถึงจุดนี้ เมื่อนกฟลามิงโกถูกกักขังในกรงเป็นครั้งแรก ผู้ดูแลสวนสัตว์พบว่านกฟลามิงโกเริ่มสูญเสียสีสันส่วนใหญ่ไป โดยทั่วไปแล้วนกฟลามิงโกที่ถูกเลี้ยงไว้จะถูกเลี้ยงด้วยอาหารพิเศษที่มีสารเติมแต่ง เช่น เบต้าแคโรทีนหรือแคนทาแซนธินเช่นเดียวกับกุ้งที่พวกมันเคยกิน เพื่อให้แน่ใจว่าจะสีชมพูสดใสอยู่ตลอดไป
ฟลามิงโกเป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สีชมพูได้หรือไม่?
มีเรื่องหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตบางอย่าง ที่กล่าวถึงนกฟลามิงโกสีน้ำเงินหรือนกฟลามิงโกสีเขียว น่าเศร้านี่เป็นเรื่องหลอกลวง และไม่เป็นความจริง
การหลอกลวงเหล่านี้อาจดูน่าสนใจเพราะนกฟลามิงโกมักกินสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน อย่างไรก็ตาม กระบวนเมแทบอลิซึมของฟลามิงโกจะย่อยสลายเม็ดสีแคโรทีนอยด์จากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินเหล่านี้ เพื่อทำให้พวกมันเปลี่ยนเป็นสีชมพูแทนที่จะเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงิน
ข้อยกเว้นประการหนึ่งสำหรับการดำรงอยู่ของนกฟลามิงโกที่ไม่ใช่สีชมพู คือ นกฟลามิงโกสีดำ มีหลักฐานจากนักดูนก พบเห็นนกฟลามิงโกสีดำในสองสถานที่ ในไซปรัสในปี พ.ศ.2558 และในอิสราเอลในปี พ.ศ.2556 เป็นไปได้ว่านกฟลามิงโกตัวนี้มี “เมลานิซึม ‘” ซึ่งเป็นภาวะที่หายากที่สัตว์สร้างเมลานินมากเกินไปจนกลายเป็นสีดำ
บทส่งท้าย
ในบทความนี้เพื่อนๆ คงได้ทราบคำตอบกันแล้วว่า ‘ทำไมถึงเป็นนกฟลามิงโกสีชมพู’ ซึ่งเป็นความอัศจรรย์อย่างประหลาดใจที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ บนโลกนี้ให้มีสีสันสดใส ไว้ติดตามกันในบทควาต่อไปว่าแอดมินจะมีเรื่องน่ารู้อะไรนำมาฝาก
Tags: สัตว์โลก