
เจลว่านหางจระเข้เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในการบรรเทาอาการเจ็บปวด และช่วยรักษาบาดแผล นอกจากจะใช้ว่านหางจระเข้รักษาร่างกายแล้วยังเป็นพืชที่ใช้ตกแต่งบ้านให้สวนได้เช่นกัน
พืชอวบน้ำมีประวัติอันยาวนานในการใช้เพื่อการรักษาโรค ย้อนหลังไปถึงอียิปต์โบราณ มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาเหนือ ยุโรปใต้ และหมู่เกาะคานารี ปัจจุบันว่านหางจระเข้ปลูกในภูมิอากาศแบบเขตร้อนทั่วโลก ตั้งแต่การบรรเทาอาการเสียดท้องไปจนถึงการชะลอการแพร่กระจายของมะเร็งเต้านม นักวิจัยเพิ่งเริ่มค้นพบประโยชน์ของว่านหางจระเข้นี้และผลพลอยได้มากมาย
หัวข้อน่าสนใจ
Toggle7 งานวิจัยคุณประโยชน์จากการใช้ว่านหางจระเข้
1. บรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก
โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคทางเดินอาหารซึ่งมักส่งผลให้เกิดอาการเสียดท้อง จากการศึกษาในปี 2010(1) ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคเจลว่านหางจระเข้ 1 ถึง 3 ออนซ์ (1 ออนซ์ เท่ากับ 28 กรัม) ในเวลารับประทานอาหารสามารถลดความรุนแรงของโรคกรดไหลย้อนได้ นอกจากนี้ยังอาจช่วยบรรเทาปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหาร ความเป็นพิษต่ำของพืชทำให้เป็นยาที่ปลอดภัยและอ่อนโยนสำหรับอาการเสียดท้อง
2. ช่วยรักษาความสดใหม่
ผลการศึกษาในปี 2014(2) ที่ได้ศึกษาต้นมะเขือเทศที่เคลือบด้วยเจลว่านหางจระเข้ รายงานแสดงหลักฐานพบว่าสารเคลือบช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายหลายชนิดในผักได้สำเร็จ พบผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกันในการศึกษาที่แตกต่างกันกับแอปเปิ้ล ซึ่งหมายความว่าเจลว่านหางจระเข้ สามารถช่วยให้ผักและผลไม้คงความสด และลดความจำเป็นในการใช้สารเคมีอันตรายที่ยืดอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์
3. ทางเลือกแทนน้ำยาบ้วนปาก
ในการศึกษาปี 2014(3) นักวิจัยพบว่าสารสกัดจากว่านหางจระเข้ มีประสิทธิภาพในการลดคราบพลัค ไม่แพ้นํ้ายาบ้วนปากที่มีส่วนประกอบของสารคลอร์เฮกซิดีน (Chlorhexidine)
4. ลดน้ำตาลในเลือด
การดื่มน้ำว่านหางจระเข้ 2 ช้อนโต๊ะต่อวันอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2(4) นี่อาจหมายความว่าว่านหางจระเข้อาจมีโอกาศนำมาใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน ผลลัพธ์เหล่านี้ได้รับการยืนยันโดยการศึกษาอื่นแหล่งที่เชื่อถือได้(5) ที่ใช้สารสกัดจากใบของว่านหางจระเข้ มีประโยชน์ในการรักษาโรคเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน
แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ทานยาลดน้ำตาล ควรใช้ความระมัดระวังในการบริโภคว่านหางจระเข้ น้ำผลไม้พร้อมกับยารักษาโรคเบาหวานอาจลดระดับน้ำตาลในเลือดของคุณให้อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายได้
5. ยาระบายธรรมชาติ
ว่านหางจระเข้ถือเป็นยาระบายตามธรรมชาติ และประโยชน์ของพืชอวบน้ำนี้ที่ช่วยในการย่อยอาหาร ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวไนจีเรียได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับหนูและพบว่าเจลที่ทำจากพืชในร่มว่านหางจระเข้ทั่วไปสามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้(6)

สำหรับอาการท้องผูก บางคนใช้น้ำว่านหางจระเข้ 100-200 มิลลิกรัม หรือสารสกัดว่านหางจระเข้ 50 มิลลิกรัม ทุกวันตามต้องการ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ใช้เจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะทุกวัน ข้อระวังปริมาณว่านหางจระเข้หรือน้ำยางว่านหางจระเข้ในปริมาณมากเป็นอันตรายได้ ดังนั้นควรขอคำแนะนำจากแพทย์เกี่ยวกับวิธีใช้ว่านหางจระเข้(7)
หากมีโรคโครห์น ลำไส้ใหญ่อักเสบ หรือริดสีดวงทวาร ไม่ควรรับประทานว่านหางจระเข้ เพราะอาจทำให้ปวดท้องอย่างรุนแรง และท้องร่วงได้ ควรหยุดทานว่านหางจระเข้หากกำลังใช้ยาอื่นอยู่ อาจลดความสามารถของร่างกายในการดูดซึมยา
6. บำรุงผิว
เราสามารถใช้ว่านหางจระเข้เพื่อให้ผิวกระจ่างใสและชุ่มชื้น อาจเป็นเพราะพืชชนิดนี้เจริญเติบโตในสภาพอากาศที่แห้งและสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เพื่อเอาชีวิตรอดในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย ใบของพืชจะกักเก็บน้ำไว้ ใบที่มีน้ำหนาแน่นเหล่านี้รวมกับสารประกอบพืชพิเศษที่เรียกว่าคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนทำให้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับใบหน้าและบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. มีส่วนช่วยในการต่อสู้กับมะเร็ง
ในงานวิจัยที่ศึกษาในปี 2018(8) Aloe emodin ซึ่งเป็นสารแอนทราควิโนนที่มีอยู่ในน้ำยางจากว่านหางจระเข้ มีฤทธิ์ต้านการงอกของเซลล์มะเร็งในมนุษย์ สามารถยับยั้งการบุกรุกของเซลล์มะเร็งโพรงจมูก มะเร็งช่องปากของมนุษย์ และเซลล์มะเร็งตับ นอกจากนี้ยังทำงานเป็นตัวยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปากมดลูก
บทส่งท้าย
มีหลายวิธีในการใช้ต้นว่านหางจระเข้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนเจลหรือสารสกัดต่างๆ ที่สามารถทำได้ ซึ่งนักวิจัยกำลังค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการนำว่านหางจระเข้พืชบวมนํ้านี้มาไปใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันข้างหน้าอาจมียาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของว่านยางจระเข้ใช้ได้อย่างปลอดภัย
Tags: ว่านหางจระเข้