ว่านหางจระเข้อาจเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่เรารู้จัก ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งสรรพคุณของว่านหางจระเข้ มีประโยชน์สำหรับสภาพผิว เนื่องจากส่วนประกอบคล้ายเจลนี้สามารถช่วยสมานผิวจากอาการบาดเจ็บเล็กน้อยได้
ที่จริงแล้วเราอาจเคยใช้ว่านหางจระเข้เพื่อรักษาอาการเจ็บแสบจากนํ้าร้อนล้วก บาดแผลเล็กๆ หรือแม้กระทั่งรอยถลอกฟกช้ำ
แม้จะมีคุณประโยชน์ในการรักษา แต่อาจสงสัยว่าเมื่อนำมาใช้กับผิวหนังบนใบหน้าจะปลอดภัยหรือไม่ โดยทั่วไปแล้วคำตอบคือใช่ เมื่อใช้อย่างถูกต้อง ว่านหางจระเข้สามารถช่วยรักษาโรคต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อผิวได้
ประโยชน์ 10 อย่างต่อผิว จากสรรพคุณของว่านหางจระเข้
ในยาแผนโบราณ ว่านหางจระเข้ใช้เป็นเจลเฉพาะที่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายวุ้นใสๆ ภายในใบ เรานำเจลใสๆ นี้มาใช้ได้โดยตรงนั้นง่ายมาก โดยเฉพาะเมื่อเกิดแผลถลอก หรือผิวหนังโดนของร้อนลวก เรามาดูกันว่าว่านหางจระเข้นั้นมีคุณประโยชน์ต่อผิวของเราได้อย่างไร
1. บาดแผลไฟไหม้
สำหรับแผลไฟไหม้เล็กน้อย ให้ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาบริเวณที่โดนบาดแผลไฟไหม้วันละ 3 ครั้ง และอาจต้องปกป้องบริเวณบาดแผลไฟไหม้นั้นด้วยผ้าก๊อซ
2. ความร้อนจากแสงแดดเผา
ในขณะที่ว่านหางจระเข้ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดด ในงานวิจัยแห่งหนึ่ง(1) แสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่วิธีป้องกันผิวไหม้แดดอย่างได้ผล ดังนั้นอย่าอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน!
3. รอยถลอกเล็กน้อย
หากมีแผลที่คางหรือหน้าผาก เราสามารถใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณนั้น เพื่อบรรเทาอาการปวดและแสบร้อนได้อย่างรวดเร็ว ใช้ทาสามครั้งต่อวัน
4. โดนของมีคมบาด
ลองเปลี่ยนจากยาล้างแผลสด มาเป็นานหางจระเข้แทน ช่วยรักษาบาดแผลได้อย่างรวดเร็ว ลดรอยแผลเป็นด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนและต่อสู้กับแบคทีเรีย ใช้ทาสามครั้งต่อวัน
5. บำรุงสภาพผิวแห้ง
เจลว่านหางจระเข้ดูดซึมได้ง่ายจึงเหมาะสำหรับผิวมัน แต่ก็สามารถช่วยรักษาผิวแห้งได้เช่นกัน ลองเปลี่ยนจากมอยส์เจอไรเซอร์มาเป็นว่านหางจระเข้หลังอาบน้ำ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว
6. อาการบวมมีน้ำเหลือง
อาการบวมมีน้ำเหลืองเป็นภาวะร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน แม้ว่าเจลว่านหางจระเข้จะเคยถูกใช้เป็นยารักษาอาการบวมมีน้ำเหลืองก็ตาม
7. แผลจากเริม
แผลจากเริมเกิดขึ้นที่ด้านนอกของปากไม่เหมือนกับแผลเปื่อย ว่านหางจระเข้อาจช่วยรักษาไวรัสเริม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคเริม ทาด้วยเจลจำนวนเล็กน้อยบริเวณเริม วันละสองครั้งจนกว่าจะหาย
8. กลาก
ผลจากความชุ่มชื้นของว่านหางจระเข้สามารถช่วยบรรเทาผิวแห้ง อาการคันที่เกี่ยวข้องกับกลาก เจลว่านหางจระเข้อาจช่วยบรรเทาอาการ ผิวหนังอักเสบจากโรคต่อมไขมันอักเสบ (seborrheic dermatitis) หรือเซ็บเดิร์ม มักพบในหนังศีรษะ แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อส่วนต่างๆ ของใบหน้าและหลังใบหูได้เช่นกัน
9. โรคสะเก็ดเงิน
เช่นเดียวกับกลาก ว่านหางจระเข้อาจช่วยบรรเทาอาการอักเสบและอาการคันจากโรคสะเก็ดเงินได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ใช้เจลว่านหางจระเข้วันละสองครั้งในบริเวณที่เป็นสะเก็ดเงิน
10. สิวอักเสบ
เนื่องจากฤทธิ์ต้านการอักเสบของว่านหางจระเข้ เจลอาจช่วยรักษารูปแบบการอักเสบของสิว เช่น ตุ่มหนอง เพียงทาด้วยเจลว่าวหางจระเข้ด้วยสำลีก้าน นำมาทาตรงบริเวณสิว 3 ครั้งต่อวัน
หาว่านหางจระเข้ได้จากไหน
ด้านในใบของต้นว่านหางจระเข้ จะมีส่วนประกอบที่เป็นเจลใสๆ คล้ายวุ้นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่มีต้นว่านหางจระเข้ปลูกอยู่รอบบ้าน สำหรับบำรุงผิวให้มองหาผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนประกอบหลักเป็นเจลของว่านหางจระเข้
แต่สำหรับโรคผิวหนัง สารสกัดจากว่านหางจระเข้ใช้ไม่ได้ผลเช่นเดียวกับเจลที่ได้จากว่านหางจระเข้โดยตรง เนื่องจากในตัวเจลเองมีองค์ประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อปกป้องและรักษาผิว
ผลข้างเคียงและข้อควรระวัง
บางคนอาจมีอาการคันหรือแสบร้อนเล็กน้อย เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบนผิวหนัง อย่างไรก็ตามหากมีผื่นหรือลมพิษ เราอาจมีความไวต่อเจลของว่านหางจระเข้ และควรหยุดใช้ทันที
อย่าใช้เจลว่านหางจระเข้กับผิวหนังที่ติดเชื้อ ซึ่งขัดขวางกระบวนการสมานแผลและทำให้การติดเชื้อแย่ลงได้ แม้ว่าเจลจะมีคุณสมบัติต้านจุลินทรีย์
บทส่งท้าย
เพื่อนๆ คงได้รู้แล้วว่าประโยชน์ของว่านหางจระเข้สำหรับผิวทั้ง 10 อย่างนี้ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติในการรักษาและบำรุงผิว แต่ก็มีข้อระวังสำหรับผู้ที่แพ้ว่านหางจระเข้ ควรงดใช้ทันที
